วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การออกแบบและการนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์

Microsoft Office PowerPoint 2007


Microsoft PowerPoint คืออะไร
                  โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007 เป็นโปรแกรมหนึ่งในตระกูล Microsoft Office เหมาะสำหรับการจัดสร้างงานนำเสนอข้อมูล (Presentation) สำหรับนำไปประยุกต์ใช้ในงานได้หลายประเภท เช่น การนำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการ การจัดทำ Slide Show การออกแบบแผ่นพับ เป็นต้น
หลักการทำงานของ PowerPoint
                  สำหรับ หลักการทำงานของ Presentation ที่สร้างจาก PowerPoint จะสร้างออกเป็น slide ย่อยๆ แต่ละ slide สามารถใส่ข้อมูล รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง เพื่อสร้างความน่าสนใจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดให้ Presentation ของเรา นำเสนอออกมาแบบในรูปแบบอัตโนมัติได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการกดเลือกให้แสดงทีละ slide
ก่อนเริ่มต้นสร้าง Presentation ควรกำหนดรูปแบบของ Presentation ของเราก่อนว่า ต้องการให้แสดงออกในรูปแบบใด เช่น ต้องการให้ส่วนด้านบน แสดงเป็นชื่อหัวข้อ ด้านล่างเป็นชื่อบริษัท และฉากหลังให้แสดงเป็นสีน้ำเงิน เป็นต้น แต่ถ้ายังคิดไม่ออก สามารถเลือกรูปแบบจาก ตัวอย่าง Themes (เวอร์ชั่นเก่าเรียกว่า Template) ที่โปรแกรมมีไว้ให้ได้ เช่นเดียวกัน
องค์ประกอบของการออกแบบ

                 1.  ส่วนนำ ได้แก่ ชื่อเรื่อง และสารบัญ
                 2.  ส่วนเนื้อหา ได้แก่ ข้อมูลรายละเอียดที่แสดงถึงสาระความสำคัญตามหัวข้อในสารบัญ
                 3.  ส่วนสรุป ได้แก่ ข้อมูลที่มีใจความสั้นๆ ซึ่งแสดงถึงความคิดเห็น ความคิดรวบยอดของเนื้อหา หรือคำคมคติประจำตน
ข้อควรคำนึงในการออกแบบ Slide

                 1.  จำนวน fream ในการนำเสนอประมาณ 10-15 fream
                 2.  ตัวอักษรใน Slide ขนาด 36-60
                 3.  สีตัวอักษรและพื้นหลังให้ตัดกัน เพื่อการมองเห็นได้ชัดเจน
                 4.  จำนวนเนื้อหาหรือข้อมูลใน Slide ไม่ควรเกิน 8 บรรทัด
                      (กรณีที่มีการคัดลอกเนื้อหาข้อมูล รูปภาพจากทาง website ต่างๆ ควรระบุแหล่งที่มาให้ชัดเจน)

สรุปความสามารถพื้นฐานของ PowerPoint 2007
·         สำหรับนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของ ข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว
·         สามารถตกแต่งตัวอักษรให้สวยๆ ด้วย?WordArt ที่พิเศษกว่า PowerPoint 2003?
·         การทำงานจะแบ่งออกเป็นหน้าๆ แต่ละหน้าเรียกว่า Slide (คลิกแท็ปเมนู Home เลือก New Slide)
·         การสร้างจะมี Slide Layout ช่วยในการออกแบบและใส่ข้อมูล? (คลิกแท็ปเมนู Home เลือก Layout)
·         รูปแบบหรือ Themes จะมี Design สำหรับรูป ช่วยให้สร้าง Presentation ได้สะดวกมากขึ้น (คลิกแท็ปเมนู Design)
·         รองรับไฟล์ข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น ตารางจาก Microsoft Excel เป็นต้น
·         รองรับภาพเคลื่อนไหวเช่น? Flash, Gif Animation, Video เป็นต้น
·         สามารถสั่งรันแบบอัตโนมัติได้
·         สามารถสั่งพิมพ์ในรูปแบบต่างๆ เช่น พิมพ์แบบ Slide, Handout เป็นต้น
·         ไฟล์ที่จะสร้างจาก Powerpoint 2007 มีนามสกุล .PPTX ถ้าเป็นเวอร์ชั่นเก่า จะมีนามสกุล .PPT
·         ถ้าไฟล์ที่สร้างเป็นไฟล์ .PPSX จะสามารถรับ Presentation แบบอัตโนมัติได้

ที่มา : http://www.it-guides.com/index.php/training-a-tutorial/office-tutorial/282-basic-microsoft-powerpoint-2007

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ครั้งแรกถึงปัจจุบัน


       


จาการที่ได้ศึกษาเรียนรู้หลักทฤษฎีการสื่อสาร องค์ประกอบการสื่อสาร หลักจิตวิทยาการสื่อสาร การวิเคราะห์จังหวะและช่วงเวลาในการสื่อสาร หลักการวิเคราะห์คู่เจรจา รูปแบบและช่องทางการสื่อสาร ตลอดจนการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาต่างๆ ในแต่ละสัปดาห์ ที่อาจารย์ถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ มาให้นิสิต ทำให้สามารถนำความรู้มาพัฒนาและต่อยอดในสายงานอาชีพที่ทำอยู่ในปัจจุบันได้ เช่น การนำเสนอหรือแลกเปลี่ยนความรู้ต่อหน้าบุคคลจำนวนมากในองค์กร โดยอาศัยหลักการที่ได้เรียนคือ เราจะต้องมองว่าเราจะสื่อสารในรูปแบบใดที่ผู้ฟัง ฟังแล้วสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน อาจจะเป็นการสื่อสารด้วยวาจา ข้อความหรือวจนภาษา การสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ รูปภาพ หรืออวจนภาษา และสื่อสารด้วยการใช้จักษุสัมผัสหรือการมองเห็น รวมทั้งการดูองค์ประกอบการสื่อสารว่าเราจะส่งข้อมูลไปยังใคร หน่วยงานใด ลักษณะของสารหรือข้อมูลที่มีอยู่มีอะไรบ้าง สื่อหรือช่องทางที่จะส่งลักษณะเป็นอย่างไรเช่น ผ่านทางวิดิโอคอนเฟอเรนซ์  โฆษณา  แผ่นพับ  การประกาศผ่านไมโครโฟน ต่อไปดูเรื่องผู้รับข้อมูลที่เราต้องการส่งไปนั้นเป็นใครอยู่ในระดับไหน ผลตอบรับเมื่อเราส่งไปแล้วเป็นอย่างไร อีกทั้งสิ่งที่จำเป็นในการนำเสนอข้อมูลอีอย่างหนึ่งคือ บุคลิภาพในการนำเสนอ กิริยาท่าทาง ภาษาที่ใช้ การแต่งกาย การแสดงออกในการพูด เป็นต้น โดยนำสิ่งเหล่านี้มาปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์นั้นๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด

อีกทั้งใน Class เรียน ทางอาจารย์ผู้สอนยังส่งเสริมให้นิสิต กล้าคิดกล้าทำกล้าแสดงออก โดยการรวมกลุ่มแสดงความคิดเห็น ตีโจทย์ปัญหาแล้วทำการวิเคราะห์สรุปผลตามหลักทฤษฎีในเรื่องนั้นๆ เมื่อสรุปประเด็นหรือแก้ไขปัญหาในโจทย์เสร็จสิ้นแล้ว นำข้อมูลที่ได้มา Shear ให้เพื่อนร่วมห้องรับทราบถึงข้อสรุปร่วมกัน หรือที่เรียกว่า Work shop

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Creative My Dream

ก้าวแรกที่เข้าสู่ห้องเรียนใหม่รายวิชา " Design and Creative Presentation " ได้สร้างความรู้สึกที่แปลกใหม่ตั้งแต่แรกพบ การสร้างความรู้จักคุ้นเคยด้วยการแนะนำตัว การทักทายเพื่อนร่วมห้อง และอาจารย์ผู้สอน ซึ่งตลอดระยะเวลาการเรียนการสอนทำให้ใครหลายๆ คนต้องปรับแนวความคิดให้สอดคล้องกับคำว่า Design and Creative ซึ่งอาจจะลบภาพแนวความคิดแบบเดิมๆ เพิ่มเติมสอดแทรกองค์ความรู้ที่ได้รับจากอาจารย์ผู้สอน ที่เต็มไปด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่และน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้การเรียนการสอนในแต่ละครั้งรู้สึกสนุกและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะเรียนด้วยการให้นิสิตทุกๆคน มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเป็นส่วนใหญ่หรือ " Knowledge sharing "

แรงจูงใจในการเรียนวิชา " Design and Creative Presentation " คือ รูปแบบการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นในเรื่องของหลักการสื่อสารโดยตรง ความรู้ของการสื่อสารต่างๆ ประสบการณ์ที่สามารถนำไปปฏิบัติ ปรับเปลี่ยนเพื่อประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหา แก้โจทย์ตามเงื่อนไขต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ที่มีอยู่จริงในการทำงาน ซึ่งทำให้ผู้เรียนรู้สึกว่า กำลังทำงานจริงๆอยู่ในสถานประกอบการณ์ที่มีหัวหน้าหรือลูกค้ากำลังรอผลงานตัวใหม่ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้ ซึ่งตรงกับ   “ ความคาดหวัง ของตัวผู้เรียนที่ต้องการเรียนรู้ในสิ่งที่แปลกใหม่แหวกแนว การนำเสนอ การมองที่ต่างมุมจากคนอื่นๆ และใกล้เคียงกับการทำงานและประสบการณ์จริงมากที่สุด

                Design and Creative Presentation เป็นการผสมผสานกระบวนการคิดการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อที่หลากหลายของผู้ส่งสารด้วยรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถต่อยอดแนวความคิดได้หลากหลาย เช่นเดียวกับ ความฝัน ในตัวของแต่บุคคลบวกกับจินตนาการที่ต้องการแสวงหาในสิ่งที่ต้องการ เช่น การได้ทำงานที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำซากจำเจ การนำจินตนาการมาผสมผสานกับแนวคิดที่แปลกใหม่มาสร้างเป็นผลงาน ผลิตภัณฑ์ หรือ  Brand ใหม่ ที่สามารถครองตลาดและเป็นที่นิยมได้ยาวนาน และความฝันอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ การนำความรู้ทุกสิ่งอย่างที่ได้รับจากในและนอกห้องเรียนไปปฏิบัติแล้วประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นที่พึงพอใจแล้วตอบสนองต่อผลของงานในสิ่งๆ นั้นมากที่สุด